ทำงานหนัก จนร่างกายเหนื่อยล้า แต่ทำไมกลับนอนไม่หลับ…นี่ร่างกายของเราเป็นอะไรไปแล้วเนี่ย!!
รู้หรือไม่? งานวิจัยจากกรมสุขภาพจิตเผยว่า คนวัยทำงานไทยกว่า 40% เผชิญปัญหานอนไม่หลับ โดยเฉพาะกลุ่มอายุ 25-35 ปี ที่ต้องเจอกับความเครียดจากหน้าที่การงาน ความกดดันจากเป้าหมายชีวิต รวมถึงความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ ทำให้เวลานอนกลายเป็นช่วงเวลาที่ไม่ผ่อนคลายอย่างที่ควรจะเป็น
ข้อมูลจาก Sleep Foundation ยังระบุเพิ่มเติมว่า คนทำงานที่มีความเครียดสะสม มีโอกาสประสบภาวะนอนหลับยาก ตื่นกลางดึก หรือหลับไม่สนิท มากกว่าคนทั่วไปถึง สองเท่า
ถ้าเริ่มรู้สึกว่า “นอนหลับยาก” หรือ “นอนหลับไม่สนิท” บ่อยครั้ง นี่อาจเป็นสัญญาณเตือนเรื่องสุขภาพจิต ที่ไม่ควรมองข้าม ในบทความนี้ เราจะพาไปสำรวจสาเหตุของอาการนอนไม่หลับจากความเครียด วิธีเช็กตัวเอง และเทคนิคปรับสมดุลชีวิตเพื่อคืนการนอนหลับคุณภาพให้อีกครั้ง
ทำไมความเครียดจากงานถึงทำให้นอนไม่หลับ?
เมื่อร่างกายเราเผชิญกับความเครียด ระบบประสาทจะหลั่งฮอร์โมนคอร์ติซอล (Cortisol) ออกมา ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ทำให้เราตื่นตัวและพร้อมรับมือกับสถานการณ์ต่าง ๆ ปกติแล้วระดับคอร์ติซอลจะสูงในตอนเช้าและค่อย ๆ ลดลงในตอนเย็น เพื่อเตรียมร่างกายเข้าสู่ภาวะพักผ่อน
แต่เมื่อเราเครียดจากงานอย่างต่อเนื่อง ระดับคอร์ติซอลจะยังคงสูงอยู่แม้ในยามค่ำคืน ส่งผลให้สมองยังคงอยู่ในสภาวะตื่นตัว ไม่สามารถผ่อนคลายเพื่อเข้าสู่ภาวะการนอนหลับได้ นอกจากนี้ ความเครียดยังส่งผลต่อการผลิตฮอร์โมนเมลาโทนิน (Melatonin) ที่มีหน้าที่ควบคุมจังหวะการนอนหลับ ทำให้วงจรการนอนของเราเกิดการผิดปกติไปจากเดิม
สัญญาณเตือนที่ไม่ควรมองข้าม
หากมีอาการเหล่านี้ 3-4 ข้อ อาจเป็นสัญญาณว่าความเครียดเริ่มส่งผลกระทบต่อการนอนหลับแล้ว:
อาการร่างกาย:
- นอนหลับยาก ใช้เวลามากกว่า 30 นาทีกว่าจะหลับ
- ตื่นกลางดึกบ่อย ๆ และหลับต่อยาก
- ตื่นเช้าเร็วกว่าปกติ แต่รู้สึกไม่สดชื่น
- ปวดหัว ปวดคอ ปวดไหล่ จากการที่กล้ามเนื้อเกร็งตัว
- หัวใจเต้นเร็ว แม้ในขณะที่นอนพัก
อาการจิตใจ:
- รู้สึกกังวลเรื่องงานแม้ในเวลาหลังเลิกงาน
- คิดถึงเรื่องงานวน ๆ ไปมา ก่อนเข้านอน
- รู้สึกเหนื่อยล้า แต่จิตใจกลับไม่สงบ
- อารมณ์แปรปรวน หงุดหงิดง่าย
- สมาธิลดลง ทำงานได้ไม่เต็มที่
วิธีเช็คระดับความเครียดของตัวเอง
มาประเมินกันหน่อยว่าเรานั้นเครียดกับงานแค่ไหน (คะแนน 1-5 (1 = ไม่เลย, 5 = มากที่สุด)
คำถาม | คะแนน |
คิดถึงเรื่องงานขณะอยู่บ้าน? | |
รู้สึกกดดันจากเป้าหมายงาน? | |
มีปัญหาการนอนหลับ? | |
รู้สึกหงุดหงิดง่าย? | |
รู้สึกเหนื่อยล้าตลอดเวลา? |
ผลลัพธ์:
5-10 คะแนน: ระดับปกติ
11-15 คะแนน: ควรระวัง เริ่มปรับวิธีจัดการความเครียด
16-25 คะแนน: ต้องให้ความสำคัญ ปรึกษาแพทย์
เทคนิคปรับสมดุลชีวิตเพื่อการนอนหลับที่ดี
- สร้างพฤติกรรมที่ดีก่อนนอน (Sleep Ritual) จัดตารางปรับเปลี่ยนพฤติกรรมก่อนนอน เช่น อาบน้ำอุ่น อ่านหนังสือ ฟังเพลงเบา ๆ หรือทำสมาธิเบื้องต้น ช่วยให้สมองเตรียมพร้อมสำหรับการพักผ่อน
- ตัดการเชื่อมต่อกับงาน (Digital Detox) หยุดเช็คอีเมลงานหรือข้อความที่เกี่ยวข้องกับงานอย่างน้อย 2 ชั่วโมงก่อนเข้านอน ปิดการแจ้งเตือนทั้งหมดในมือถือ
- เทคนิคการหายใจ 4-7-8 หายใจเข้าทางจมูก 4 จังหวะ กลั้นลมหายใจ 7 จังหวะ แล้วหายใจออกทางปาก 8 จังหวะ ทำซ้ำ 4-5 รอบ ช่วยลดความเครียดและเตรียมจิตใจสู่การพักผ่อน
- จัดระเบียบสถานที่นอน ปรับอุณหภูมิห้องให้เย็นสบาย (18-22 องศาเซลเซียส) ลดแสงสว่าง และเลือกใช้ที่นอนและหมอนที่เหมาะสมกับรูปร่าง
- ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ออกกำลังกายสม่ำเสมอช่วยลดฮอร์โมนเครียดและเพิ่มการผลิตเอนโดฟิน แต่หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนักใน 3-4 ชั่วโมงก่อนเข้านอน
วิธีจัดการความเครียดจากงานในระยะยาว
- การวางแผนการทำงาน
- แบ่งงานใหญ่ออกเป็นงานเล็ก ๆ
- ตั้งเป้าหมายที่สามารถทำได้จริง
- เรียนรู้การพูด “ไม่” เมื่อมีงานมากเกินไป
- ใช้เทคนิค Time Blocking ในการจัดการเวลา
- แบ่งปันเรื่องราวกับคนที่ไว้ใจ
- พูดคุยกับเพื่อนร่วมงานหรือผู้บังคับบัญชาเมื่อมีปัญหา
- หาเวลาพบปะเพื่อนฝูงและคนในครอบครัว
- ร่วมกิจกรรมกลุ่มหรือชุมชนที่ทำให้รู้สึกผ่อนคลาย
- พัฒนาทักษะการจัดการความเครียด
- ฝึกการทำสมาธิ หรือ Mindfulness
- เรียนรู้เทคนิคการผ่อนคลายกล้ามเนื้อ
- หาเวลาทำกิจกรรมที่ชอบอย่างสม่ำเสมอ
เมื่อใดควรปรึกษาแพทย์
หากมีอาการต่อไปนี้ เป็นเวลา 2 สัปดาห์ขึ้นไป แนะนำให้ปรึกษาแพทย์
- นอนไม่หลับเกินกว่า 3 คืนต่อสัปดาห์
- รู้สึกหดหู่ไม่มีแรงจูงใจในการทำงาน
- มีอาการวิตกกังวลรุนแรง
- ใช้สารเสพติดหรือแอลกอฮอล์เพื่อช่วยให้หลับ
- มีอาการทางร่างกายที่ไม่ปกติ เช่น ปวดหัวบ่อย ปวดท้อง
การป้องกันในระยะยาว
การดูแลสุขภาพจิตไม่ใช่เรื่องที่ควรมองข้าม โดยเฉพาะในยุคที่ความเครียดจากงานกลายเป็นปัญหาสำคัญของคนวัยทำงาน การมีแผนการดูแลสุขภาพที่ครอบคลุมทั้งกายและใจจึงเป็นสิ่งจำเป็น
การดูแลสุขภาพไม่ใช่แค่เรื่องของร่างกาย แต่สุขภาพจิตใจก็สำคัญไม่แพ้กัน เพราะเมื่อใจป่วย ร่างกายก็จะอ่อนแอตามไปด้วย การนอนหลับที่มีคุณภาพจึงไม่ใช่ความฟุ่มเฟือย แต่คือพื้นฐานสำคัญของการมีสุขภาพที่ดี มีประสิทธิภาพในการทำงาน และมีความสุขในชีวิตประจำวัน เริ่มต้นดูแลตัวเองตั้งแต่วันนี้ เพื่อให้เราได้นอนหลับสบาย และตื่นมาพร้อมพลังในการรับมือกับทุกความท้าทายที่รออยู่ในแต่ละวัน
