2 นาที

มีงบก้อนเดียว ทำอะไรก่อนดี? ประกันชีวิต vs ประกันสุขภาพ

แชร์

สำหรับคนเพิ่งเริ่มทำงาน หรือที่เรียกว่า First Jobber การวางแผนการเงินเป็นเรื่องสำคัญที่หลายคนเริ่มใส่ใจมากขึ้น โดยเฉพาะเรื่อง “ประกัน” ที่เป็นอีกหนึ่งเครื่องมือที่สามารถช่วยเราถ่ายโอนความเสี่ยง (risk management) แต่คำถามยอดฮิตก็คือ… 

“ถ้ามีงบจำกัด ควรซื้อประกันสุขภาพก่อน หรือประกันชีวิตก่อนดี?” เพราะทั้งสองแบบดูคล้ายกัน แต่จริง ๆ แล้วคุ้มครองต่างกันคนละด้านเลย ดังนั้นในบทความนี้เราจะพาไปดูแบบละเอียดว่า 
  • ประกันชีวิตคืออะไร? 
  • ประกันสุขภาพคุ้มครองอะไรบ้าง? 
  • ถ้างบจำกัด ควรเริ่มที่ตัวไหนก่อนดี? 
พร้อมคำแนะนำสำหรับ มือใหม่หัดทำประกัน โดยเฉพาะ เพื่อให้เหล่า first jobber สามารถวางแผนได้ตรงจุด คุ้มค่า และตอบโจทย์ชีวิตจริง 
ประกันชีวิต คืออะไร 
ประกันชีวิต คือผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่ออกแบบมาเพื่อให้ความคุ้มครองด้านชีวิต และช่วยลดผลกระทบทางการเงินเมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิด เช่น การเสียชีวิต อุบัติเหตุร้ายแรง หรือการทุพพลภาพถาวร 
โดย หลักการของประกันชีวิต คือการ “เฉลี่ยความเสี่ยง” 
เราจ่าย “เบี้ยประกัน” ให้บริษัทประกันเป็นประจำ เมื่อเกิดเหตุไม่คาดฝัน บริษัทจะจ่ายเงินก้อนที่เรียกว่า ทุนประกันชีวิต ให้กับผู้รับผลประโยชน์ เช่น ครอบครัวหรือทายาท 
ประกันชีวิตคุ้มครองอะไรบ้าง? 
  • การเสียชีวิต (จากอุบัติเหตุ หรือโรคภัย) 
  • การสูญเสียอวัยวะ / ทุพพลภาพถาวร 
  • กรณีมีชีวิตอยู่ครบตามสัญญา (ในบางแผนจะมีเงินคืน) 
  • บางแบบอาจมีความคุ้มครองโรคร้ายแรง หรือความคุ้มครองสุขภาพเสริม 
ประกันสุขภาพ คือผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่บริษัทประกันภัยตกลงที่จะชดเชยค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลที่เกิดขึ้นจากการเจ็บป่วยหรืออุบัติเหตุ ซึ่งช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายที่อาจเกิดขึ้นเมื่อเราป่วยหรือได้รับบาดเจ็บ 
การซื้อ ประกันสุขภาพ ในปัจจุบันสะดวกและง่ายมากขึ้น เนื่องจากสามารถซื้อได้ผ่านช่องทางออนไลน์ ทำให้ผู้เอาประกันสามารถเลือกแผนประกันที่เหมาะสมกับตัวเองได้ง่าย ๆ โดยไม่ต้องเสียเวลาไปที่บริษัทประกันโดยตรง 
ประกันสุขภาพจะให้คุ้มครองค่ารักษาพยาบาลที่เกิดจาก: 
  • การเจ็บป่วย เช่น โรคต่าง ๆ ที่ต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล 
  • การบาดเจ็บจากอุบัติเหตุ  
  • ค่าใช้จ่านที่เกี่ยวข้องกับการรักษาพยาบาล เช่น ค่าห้อง ค่าผ่าตัด ค่ายา ฯลฯ 
ทีนี้เราก็พอจะเข้าใจคอนเซ็ปคร่าวๆ เกี่ยวกับประกันชีวิต และประกันสุขภาพแบบพอสังเขปแล้ว แล้วถ้าเราเป็นเพียง first jobber ที่เงินเดือน 15,ooo และมีงบจำกัด เราควรเลือกซื้ออะไรก่อนดีระหว่าง ”ประกันชีวิต” หรือ “ประกันสุขภาพ” เพื่อให้สามารถตัดสินใจได้ง่ายขึ้นลองใช้ทั้ง 3 ปัจจัยในี้เป็นตัวช่วยนการตัดสินใจ  
1.ปัจจัยเรื่องสุขภาพ และความเสี่ยง  
ลองตั้งคำถามในทุกวันนี้เรามีพฤติกรรมการใช้ชีวิตอย่างไรบ้าง เป็นการใช้ชีวิตที่ส่งผลดีต่อสุขภาพหรือไม่ เช่นโหมงานจนดึกตลอด กินอาหาร fast food เป็นประจำ เพราะพฤติกรรมเหล่านี้จะเป็นตัวบ่งชี้สำคัญว่าเรามีความเสี่ยงทางสุขภาพแค่ไหน 
2.สวัสดิการที่มี  
อย่างที่ทราบกันดีว่าทุกบริษัทต้องทำประกันสังคมให้พนักงานอยู่แล้ว แต่ก็อย่างที่เรารู้มานั้นแหละว่าประกันสังคมจะเคลมได้แค่โรงพยาบาบคู่สัญญาเท่านั้นอาจทำให้เรารู้สึกยุงยากในการการเข้ารับการรักษาพยาบาล ยกเว้นบริษัทจะใจดีทำประกันสุขภาพกลุ่มให้กับพนักงานเพิ่มด้วย ซึ่งก็อาจทำให้การเข้ารักษาพยาบาลดูคล่องตัวขึ้น แต่ก็ต้องดูอีกนั้นแหละว่าวงเงินความคุ้มครองนั้นสอดคล้องกับโรงพยาบาลที่เราแพลนว่าอยากจะเข้าใช้บริการหรือเปล่า เพื่อที่เราจะได้ไม่ต้องจ่ายส่วนต่างเยอะ 
3.คนที่ต้องดูแล 
สำหรับใครที่เพิ่งเริ่มทำงาน (First Jobber) แต่ต้องแบกรับภาระดูแลพ่อแม่ หรือครอบครัว การวางแผนเพื่อรับมือตั้งแต่เนิ่น ๆ เป็นเรื่องสำคัญมาก เพราะหากเกิดเหตุไม่คาดฝัน คนที่อยู่ข้างหลังจะได้ไม่ต้องเผชิญภาระทางการเงินที่หนักเกินไป 
กรณีที่ 1 :ถ้าเราเป็นคนที่ชอบนอนดึก ชอบกินฟาสต์ฟู้ด และมีแค่ประกันสังคม “ประกันสุขภาพ” อาจเป็นประกันแรกที่ควรรีบซื้อ 
แม้ว่าวันนี้ร่างกายเรายังแข็งแรง แต่พฤติกรรมที่ไม่ดีต่อสุขภาพ เช่น การนอนดึกเป็นประจำ กินอาหารฟาสต์ฟู้ดบ่อย ๆ จะค่อย ๆ สะสมผลเสียกับร่างกาย เมื่อถึงจุดหนึ่ง โรคต่าง ๆ อาจตามมาไม่ทันตั้งตัว เช่น เบาหวาน ความดัน หัวใจ หรือแม้แต่มะเร็งบางชนิด 
และเมื่อโรคเหล่านี้เกิดขึ้นแล้ว การขอทำประกันสุขภาพใหม่อาจเป็นเรื่องยากขึ้นมาก หรือไม่ก็ต้องจ่ายเบี้ยประกันในอัตราที่แพงกว่าปกติ หรืออาจถูกปฏิเสธการรับประกันไปเลยในบางกรณี 
ดังนั้น สำหรับคนที่มีพฤติกรรมเสี่ยงแบบนี้ การทำประกันสุขภาพตั้งแต่ยังแข็งแรงอยู่ จะเป็นการป้องกันความเสี่ยงทางการเงินในอนาคตได้ดีที่สุด 
กรณีที่ 2: ถ้าเราทำงานในบริษัทที่มีสวัสดิการประกันสุขภาพกลุ่ม “ประกันชีวิต” อาจเป็นสิ่งที่ควรเริ่มทำก่อน 
หากบริษัทมีสวัสดิการประกันสุขภาพกลุ่มให้แล้ว เราอาจยังไม่จำเป็นต้องรีบซื้อประกันสุขภาพเพิ่มเติมทันที แต่ควรพิจารณาทำ “ประกันชีวิต” เพื่อสร้างความคุ้มครองชีวิตให้ครอบครัว หรือคนที่เรารักในกรณีที่เกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้นมา พร้อมกันนั้น อาจเลือกซื้อ สัญญาเพิ่มเติม เฉพาะส่วนที่ประกันกลุ่มของบริษัทไม่ครอบคลุม เช่น  
  • ค่าห้อง เพื่อขยายวงเงินให้เราได้ค่าห้องที่เหมาะสมและได้ใช้จริงง 
  • เงินชดเชยรายได้รายวัน ในกรณีต้องพักรักษาตัวในโรงพยาบาลนาน ๆ แล้วรายได้ขาดหาย 
วิธีนี้ช่วยให้เราได้รับความคุ้มครองครบถ้วน โดยไม่ต้องจ่ายเบี้ยประกันเกินจำเป็น และยังวางแผนเสริมในส่วนที่ขาดได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย ไม่ว่าจะเลือกทำ ประกันสุขภาพ หรือ ประกันชีวิต ก่อน สิ่งสำคัญที่สุดคือการทำความเข้าใจสถานการณ์ของตัวเองให้ชัดเจน ทั้งเรื่องสุขภาพปัจจุบัน พฤติกรรมการใช้ชีวิต ภาระความรับผิดชอบ และสวัสดิการที่มีอยู่  ถ้าเราเสี่ยงเรื่องสุขภาพ หรือมีสวัสดิการด้านสุขภาพไม่เพียงพอ → เริ่มจาก “ประกันสุขภาพ” เพื่อป้องกันค่าใช้จ่ายก้อนใหญ่ที่อาจเกิดขึ้นแบบไม่ทันตั้งตัว  แต่ถ้าเรามีคนข้างหลังที่ต้องดูแล หรือมีสวัสดิการสุขภาพดีอยู่แล้ว → เริ่มจาก “ประกันชีวิต” เพื่อสร้างความคุ้มครองและความมั่นคงให้ครอบครัวในวันที่เราอาจไม่อยู่ 
จำไว้เสมอว่า ประกันไม่ใช่การซื้อเพื่อหวังผลตอบแทน แต่คือการวางแผนรับมือความเสี่ยง เพื่อให้ชีวิตในอนาคตเดินต่อไปได้อย่างมั่นคง แม้จะเกิดเรื่องไม่คาดฝันขึ้นก็ตาม เริ่มต้นตอนนี้ ดีกว่ารอให้สายเกินไปนะ! 

ขอบคุณข้อมูลจาก : https://www.tfpa.or.th/9e6417ebffecef071/resources4_3_3_21.html

แชร์

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง

ไม่อยากเสียใจ อ่านสิ่งนี้ก่อนเลือกทำประกันชีวิตผู้สูงอายุให้พ่อ-แม่

ปัจจุบันเทรนด์ทั่วโลกกำลังก้าวเข้าสู่ สังคมผู้สูงวัย และประเทศไทยเองก็ไม่ต่างกัน เมื่อสมาชิกในครอบครัว โดยเฉพาะพ่อแม่ เริ่มมีอายุเพิ่มมากขึ้น ความเสี่ยงด้านสุขภาพก็ตามมา การวางแผนดูแลท่านจึงไม่ควรมองข้าม โดยเฉพาะในเรื่องของ หากคุณกำลังมองหาวิธีวางแผนดูแลพ่อแม่ในยามแก่เฒ่า การทำ ประกันชีวิตผู้สูงอายุ ถือเป็นอีกทางเลือกที่ช่วยเพิ่มความอุ่นใจทั้งกับผู้ทำประกันและครอบครัวของคุณ อย่างไรก็ตาม ต้องพิจารณาเงื่อนไขให้ละเอียด เลือกแผนที่เหมาะกับงบประมาณและเป้าหมายของคุณให้ดี แล้วคุณจะได้รับ “ความคุ้มครอง” พร้อม “ความสบายใจ” ไปพร้อมกัน ที่สามารถช่วยรองรับค่าใช้จ่ายในอนาคต และเป็นหลักประกันที่มั่นคงให้กับครอบครัว

3 ประกันภัยอุบัติเหตุ แบบไหนที่ใช่คุณ

ประกันอุบบัติเหตุ คืออะไร และแบบไหนที่ใช่เรา