2 นาที

จ่ายเบี้ยประกันชีวิตไม่ไหวทำอย่างไรดี

แชร์

เคยเป็นไหมครับชอบซื้ออะไรแบบลืมเนื้อลืมตัว มานั่งมองอีกทีของที่ได้มาก็เยอะเกินความจำเป็น แถมยังก็ไม่ตรงกับความต้องการอีก ถ้าโชคดีหน่อยก็อาจส่งคืนสินค้าแล้วขอเงินคืนได้ แต่ถ้าเป็นในแง่ของการซื้อประกันล่ะจะง่ายเหมือนกับสินค้าทั่วไปหรือไม่

ผมเชื่อว่าจุดประสงค์ในการซื้อประกันชีวิตของใครหลายๆ คนคงคือการนำประกันมาใช้เป็นเครื่องมือช่วยบรรเทาความเสียหายจากความเสี่ยงต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นกับตัวคุณ คนรอบข้าง และทรัพย์สินของคุณ ซึ่งก็ดูเหมือนว่าจะเป็นเรื่องที่ดี แต่ถ้าซื้อเยอะไปจนเกินความจำเป็น ซื้อผิดประเภท หรือเลือกทำกรมธรรม์ที่ไม่ได้ตอบโจทย์ตัวเอง ก็อาจทำให้กลายเป็นภาระต้องมานั่งแบกค่าเบี้ยประกันจนหลังแอ่น พอนานเข้าเรื่อยๆ ก็อาจทำให้จ่ายต่อไม่ไหว และด้วยกรมธรรม์ประกันชีวิตส่วนใหญ่จะเป็นสัญญาระยะยาวตั้งแต่ 5 ปี – 10 ปี จะให้ฝืนจ่ายไปเรื่อยๆ ก็คงอดตายก่อนได้เงินคืนแน่ๆ ถ้าคุณกำลังประสบกับสถานการณ์นี้อยู่ล่ะก็ชายพีร์มีทางออกมาให้กับทุกคนครับ 4 ทาง

4 แนวทางเอาตัวรอดเมื่อจ่ายเบี้ยประกันไม่ไหว
ประกันชีวิต
ทางที่ 1 เวนคืนมูลค่าเงินสด
คือ การยกเลิกกรมธรรม์ หรือหยุดจ่ายเบี้ยประกัน และได้รับเงินสดคืนก้อนหนึ่งทันที ซึ่งจำนวนเงินสดที่ได้รับนั้น ขึ้นอยู่กับที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ตามตารางมูลค่าเงินสด และเมื่อตัดสินใจเวนคืนแล้วแล้วจะถือว่ากรมธรรม์ป็นอันสิ้นสุด
เหมาะกับใคร? ผู้ที่ต้องการได้รับเงินก้อนคืนจากการยกเลิกความคุ้มครอง แต่ข้อเสียคือคุณมีโอกาสได้รับเงินคืนน้อยกว่าเบี้ยที่ชำระไปแล้ว
ประกันชีวิต
ทางที่ 2 กู้เงินจากกรมธรรม์
คือ การขอกู้เงินจากกรมธรรม์ประกันชีวิตของตัวเอง ซึ่งวงเงินที่สามารถกู้ได้นั้นขึ้นอยู่กับมูลค่าเงินสดซึ่งเป็นเสมือนหลักทรัพย์ค้ำประกัน และการพิจาณาตามกฎเกณฑ์ของบริษัทประกัน แต่ก็อย่าลืมนะครับว่าทุกการกู้เงินย่อมมีดอกเบี้ยเสมอ ส่วนอัตราดอกเบี้ยจะเท่าไหร่นั้นก็ขึ้นอยู่กับสัญญาของแต่ละบริษัทประกัน 
หมาะกับใคร?  คนที่ต้องการให้ความคุ้มครองยังคงอยู่ และประสบปัญหาจนทำให้ไม่สามารถจ่ายค่าเบี้ยประกันได้ตามปกติ ขึ้นอยู่กับมูลค่าเงินสดซึ่งเป็นเสมือนหลักทรัพย์ค้ำประกัน และการพิจาณาตามกฎเกณฑ์ของบริษัทประกัน จึงเป็นอีกหนึ่งทางออกที่ช่วยคุณได้ แต่ข้อเสียคือคุณต้องเสียดอกเบี้ยให้กับบริษัทประกัน
ประกันชีวิต
ทางที่  3 การขอใช้เงินสำเร็จ
คือ การยุติจ่ายเบี้ยประกัน แต่ความคุ้มครองยังคงมีอยู่ไปจนครบสัญญา ซึ่งความคุ้มครอง และทุนประกันที่มีอยู่อาจจะมีการปรับลดลง
เหมาะกับใคร? ผู้ที่ไม่สะดวกจ่ายเบี้ยต่อ แต่ต้องการความคุ้มครองอยู่ ตามระยะเวลาที่ตั้งใจไว้ ถึงแม้ว่าความคุ้มครองจากจำนวนเงินเอาประกันชีวิตจะลดลง
ประกันชีวิต
ทางที่ 4 ขยายเวลา
คือ การยุติจ่ายเบี้ยประกัน แต่ยังได้รับความคุ้มครองด้วยจำนวนเงินเอาประกันชีวิตที่เท่าเดิม ซึ่งสิ่งที่ลดลงคือระยะเวลาการคุ้มครอง  และทางบริษัทประกันอาจมีการจ่ายเงินสดก้อนหนึ่งคืนให้คุณทันทีหากมูลค่าเงินสดของกรมธรรม์เกินกว่าความคุ้มครอง
เหมาะกับใคร? คนที่ต้องการความคุ้มครองเท่าเดิม แต่ยอมรับได้ที่ระยะเวลาคุ้มครองลดลง
ทั้ง 4 ทางออกที่ชายพีร์นำมาเล่าสู่กันฟังในวันนี้นั้นต่างมีข้อดีและข้อเสียแตกต่างกันไปยังไงก็ลองพิจารณาและลองเลือกให้เหมาะสมกับปัญหากันดูนะครับแต่เหนือสิ่งอื่นใดเลยคืออยากให้ทุกคนพิจารณาอย่างถี่ถ้วนก่อนเลือกใช้ทางออกเหล่านี้เพราะหากเลือกผิดเท่ากับว่าพลาด และเพื่อผลประโยชน์อันสูงสุดแก่ตัวคุณเองนะครับ

แชร์

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง

ยื่นภาษีไม่ทัน มีทางแก้อะไรบ้าง?

ตายแล้ว!!! มัวแต่ทำนู้นทำนี่จนลืมยื่นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา(ภ.ง.ด.90/91) ไปเลย แล้วอย่างนี้จะเอาไงต่อดีล่ะ ไม่ต้องกังวลใจไปเพราะบทความนี้มีคำตอบ

พนักงานเงินเดือนยื่นภาษีออนไลน์ง่ายๆ แค่นี้เอง!

หมดกังวลเรื่องยื่นภาษี! บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักกับวิธีการยื่นภาษีออนไลน์สำหรับพนักงานเงินเดือนแบบง่ายๆ เพียงไม่กี่ขั้นตอน