2 นาที

มีประกันสุขภาพ และประกันชีวิตอยู่แล้ว ประกันอุบัติเหตุยังจำเป็นอยู่ไหม??

แชร์

ประกันอุบัติเหตุ มักเป็นประกันที่ถูกพูดถึงน้อยที่สุด เพราะหากให้คนส่วนใหญ่พูดถึงประกันที่เป็น top of mind อันดับต้นๆ คงหนีไม่พ้นประกันสุขภาพ หรือประกันชีวิตเป็นแน่แท้ แต่ในช่วงหลังๆ มานี้ประกันอุบัติเหตุเริ่มเป็นที่รู้จักมากขึ้น อาจเนื่องมาจากข่าวอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นมากมายในทุกวัน  หลายคนจึงมองหาทางออกเพื่อความอุ่นใจด้วยการทำประกันอุบัติเหตุ แต่คำถามที่หลายคนสงสัยก็คือ “มีประกันสุขภาพและประกันชีวิตอยู่แล้ว ประกันอุบัติเหตุยังจำเป็นอยู่ไหม?” 

ก่อนจะเข้าสู่คำตอบว่า “มีประกันสุขภาพและประกันชีวิตอยู่แล้ว ประกันอุบัติเหตุยังจำเป็นอยู่ไหม?” เรามาทำรู้จัก เกี่ยวกับประกันอุบัติเหตุแบบพอสังเขปกันหน่อยดีกว่า 
ประกันอุบัติเหตุ คือประเภทของประกันภัยที่ให้ความคุ้มครองกรณีเกิดอุบัติเหตุ โดยจะจ่ายเงินชดเชยตามที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ ซึ่งความคุ้มครองภายใต้กรมธรรม์ประกันอุบัติเหตุนั้น แบ่งเป็น 2 แบบ คือ  
  1. แบบ อบ. 1 คุ้มครอง การเสียชีวิต การสูญเสียมือ เท้า และสายตา หรือทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิง 
  2. แบบ อบ. 2 คุ้มครอง การเสียชีวิต การสูญเสียมือ เท้า และสายตา นิ้ว หูหนวกและเป็นใบ้ หรือทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิง ทุพพลภาพถาวรบางส่วน 
แต่ก็มีบางความคุ้มครองที่สามารถซื้อเพิ่มเติมได้ เช่น  
  • ทุพพลภาพชั่วคราวสิ้นเชิง 
  • ทุพพลภาพชั่วคราวบางส่วน 
  • ค่ารักษาพยาบาล 
ประกันอุบัติเหตุ
มีประกันสุขภาพ และประกันชีวิตอยู่แล้ว ประกันอุบัติเหตุยังจำเป็นอยู่ไหม??  
คำตอบของคำถามนี้สามารถตอบได้ทั้ง จำเป็น และ ไม่จำเป็น ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ 
ปัจจัยที่ 1 พิจารณาความคุ้มครองของประกันสุขภาพและประกันชีวิตที่มีอยู่ 
หากเราเป็นคนที่มีประกันชีวิต และสุขภาพอยู่แล้ว ให้พิจารณาความคุ้มครองปัจจุบัน เช่นประกันสุขภาพที่มีอยู่นั้นคุ้มครองค่ารักษาจากอุบัติเหตุด้วยหรือไม่ เพราะประกันสุขภาพบางกรมธรรม์ จะมีวงเงินคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลจากอุบัติเหตุ แยกต่างหาก ซึ่งวงเงินค่ารักษาอาจไม่เพียงพอตอบโจทย์ตามความต้องการของเรา  
สำหรับประกันชีวิต ในกรณีที่เงินชดเชยหากเราเสียชีวิตที่ทำไว้ตั้งแต่ตอนแรก อาจจะไม่สอดคล้องตามภาระปัจจุบันที่เรามี แต่การที่จะเพิ่มทุนประกันตามที่เราต้องการนั้นอาจเป็นไปได้ยาก เพราะมักมีจำนวนเงินเพิ่มทุนที่จำกัด หรือในบางกรณีอาจไม่สามารถเพิ่มทุนประกันได้เลย 
ดังนั้นหากพิจารณาดูแล้วว่าความคุ้มครองของประกันสุขภาพ และประกันชีวิตทีมีอยู่ของเรา ณ ตอนนี้นั้นยังไม่ครอบคลุมเท่าไหร่ การทำประกันอุบัติเหตุติดตัวไว้ก็เป็นเรื่องที่น่าสนใจไม่น้อย 
ปัจจัยที่ 2 พิจารณารูปแบบการใช้ชีวิต 
หากอยู่ดีๆ ช่วงนี้เราก็ต้องเดินทางพบลูกค้าบ่อยขึ้น หรือได้รับภารกิจชั่วคราวให้ไปคุมสถานที่ก่อสร้าง เพื่อเป็นการรับมือกับความเสี่ยงที่สูงแบบไม่ทันตั้งตัว ประกันอุบัติเหตุอาจเป็นอีก 1 เครื่องมือที่ช่วยได้ เพราะประกันอุบัติเหตุเป็นสัญญาแบบระยะสั้น ปีต่อปี ซึ่งเหมาะกับกับการที่นำมาใช้เป็นเครื่องมือถ่ายโอนความเสี่ยงแบบชั่วคราวได้ อีกทั้งประกันอุบัติเหตุยังมีเบี้ยประกันที่ไม่สูงมากนัก เมื่อเทียบกับประกันชีวิต ดังนั้นหากใครที่มองหาเครื่องมือไว้รับมือกับความเสี่ยงแบบชั่วคราว ประกันอุบัติเหตุ ก็อาจเป็นคำตอบที่มองหา 
ทั้ง 2 ปัจจัยนี้เป็นเพียงตัวอย่างที่เรายกมาเพื่อให้เห็นภาพมากขึ้นเท่านั้น ซึ่งจริงๆ แล้วอาจมีปัจจัยอื่นๆ อีกที่นำมาใช้ประกอบในการตัดสินใจว่า ประกันอุบัติเหตุยังจำเป็นอยู่ไหม?? หากเรามีประกันสุขภาพ และประกันชีวิตอยู่แล้ว และที่สำคัญเลยก่อนตัดสินใจซื้อประกันใดๆ อย่าลืมศึกษารายละเอียด และเงื่อนไขข้อยกเว้นความคุ้มครองให้ดีเพื่อประโยชน์สูงสุดแก่ตัวเรา หรือแวะเข้ามาเปรียบเทียบ และค้นหาประกันอุบัติเหตุที่ตอบโจทย์ และคุ้มค่าได้ที่  Link 
ขอบคุณข้อมูลจาก  : https://www.tlaa.org/

แชร์

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง

ไม่อยากเสียใจ อ่านสิ่งนี้ก่อนเลือกทำประกันชีวิตผู้สูงอายุให้พ่อ-แม่

ปัจจุบันเทรนด์ทั่วโลกกำลังก้าวเข้าสู่ สังคมผู้สูงวัย และประเทศไทยเองก็ไม่ต่างกัน เมื่อสมาชิกในครอบครัว โดยเฉพาะพ่อแม่ เริ่มมีอายุเพิ่มมากขึ้น ความเสี่ยงด้านสุขภาพก็ตามมา การวางแผนดูแลท่านจึงไม่ควรมองข้าม โดยเฉพาะในเรื่องของ หากคุณกำลังมองหาวิธีวางแผนดูแลพ่อแม่ในยามแก่เฒ่า การทำ ประกันชีวิตผู้สูงอายุ ถือเป็นอีกทางเลือกที่ช่วยเพิ่มความอุ่นใจทั้งกับผู้ทำประกันและครอบครัวของคุณ อย่างไรก็ตาม ต้องพิจารณาเงื่อนไขให้ละเอียด เลือกแผนที่เหมาะกับงบประมาณและเป้าหมายของคุณให้ดี แล้วคุณจะได้รับ “ความคุ้มครอง” พร้อม “ความสบายใจ” ไปพร้อมกัน ที่สามารถช่วยรองรับค่าใช้จ่ายในอนาคต และเป็นหลักประกันที่มั่นคงให้กับครอบครัว

มีงบก้อนเดียว ทำอะไรก่อนดี? ประกันชีวิต vs ประกันสุขภาพ

สำหรับคนเพิ่งเริ่มทำงาน หรือที่เรียกว่า First Jobber การวางแผนการเงินเป็นเรื่องสำคัญที่หลายคนเริ่มใส่ใจมากขึ้น โดยเฉพาะเรื่อง “ประกัน” ที่เป็นอีกหนึ่งเครื่องมือที่สามารถช่วยเราถ่ายโอนความเสี่ยง (risk management) แต่คำถามยอดฮิตก็คือ...