2 นาที

6 ข้อควรรู้? ควรระวัง!ก่อนทำประกันสุขภาพ

แชร์

โรคภัยไข้เจ็บนับเป็นหนึ่งในปัจจัยไม่คาดฝันที่คอยขัดขวางให้เป้าหมายทางการเงินของเราไม่ประสบความสำเร็จได้อย่างที่ตั้งไว้ 

วิธีการแก้ปัญหานั้นก็มีหลากหลายมาก ไม่ว่าจะเป็นการป้องกันตนเองจากโรคร้ายด้วยการออกกำลังกาย รับประทานอาหารที่มีประโยนชน์ หรือประโคมผลิตภัณฑ์เสริมอาหารต่างๆ เข้าสู่ร่างกาย ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องที่ผิดอะไร แต่อย่าลืมนะว่าโรคภัยไข้เจ็บมันไม่เลือกอะไรทั้งนั้น ดูอย่างกรณีของเชื้อไวรัสโควิด-19 เป็นตัวอย่าง ไม่ว่าจะเป็นผู้นำระดับประเทศ หรือทหารที่มีร่างกายแข็งแรงก็ยังป่วยได้เลย ดังนั้นแค่แผนเชิงรุกอย่างเดียวคงยังไม่พอ เราจึงจำเป็นต้องมีแผนเชิงรับไว้ด้วย และ “ประกันสุขภาพ” ก็เป็นหนึ่งในเครื่องมือยอดฮิตที่มักถูกเลือกนำมาใช้เป็นแผนเชิงรับ 

“ประกันสุขภาพ” คือการประกันภัยที่บริษัทประกันภัยตกลงจะช่วยแบ่งเบาภาระค่ารักษาที่เกิดขึ้นให้แก่ผู้เอาประกันภัย ซึ่งการทำประกันสุขภาพนั้นมิใช่ แค่เพียงช่วยประหยัดเงินในกระเป๋าเท่านั้น แต่ยังช่วยให้ตัวเรามีหลักประกันสุขภาพที่แข็งแกร่งมากขึ้นกว่าเดิมด้วยเช่นกัน และเพื่อให้ทุกคนได้เข้าใจประกันสุขภาพมากขึ้น วันนี้ เราจะมาแบไต๋ข้อควรรู้ ควรระวังก่อนทำประกันสุขภาพกัน อ่านจบซื้อประกันได้ไม่มีเหวออย่างแน่นอน 

6 ข้อควรรู้? ควรระวัง! ก่อนทำประกันสุขภาพ 
  1. การทำประกันสุขภาพทุกครั้งจะต้องกรอกข้อมูลที่เป็นความจริงเสมอ หากกรอกข้อความที่เป็นเท็จและทางบริษัทประกันมาตรวจพบในภายหลัง กรมธรรม์นั้นจะเป็นโมฆะทันทีนะจ๊ะ เราเตือนเธอแล้วนะ ความจริงคือสิ่งไม่ตาย
  2. ประกันสุขภาพบางตัวจะมี ระยะเวลารอคอย หรืออีกชื่อหนึ่งเราจะเรียกว่า ระยะเวลาที่ประกันไม่คุ้มครอง ไม่ใช่ว่าอนุมัติปุ๊ป แล้วจะได้ความคุ้มครองทันทีนะ เก็บอาการเบาหวานขึ้นตาไว้ก่อน แต่ระยะเวลาที่ต้องรอนั้นจะนานเท่าไหร่ก็ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของกรมธรรม์นั้นๆ โดยส่วนใหญ่ก็จะอยู่ราวๆ 30-120 วัน 
  3. เบี้ยประกันสุขภาพเป็นแบบจ่ายทิ้งปีต่อปี ไม่มีสะสมเหมือนกับประกันสะสมทรัพย์ หรือประกันแบบบำนาญ แถมยังมีมีสัญญาคุ้มครองแบบปีต่อปี ดังนั้นหากเรามานั่งคิดดูแล้วว่าไม่อยากทำต่อ หรือสนใจอยากจะทำตัวอื่นเราก็สามารถยกเลิกกรมธรรม์นั้นได้เลย แต่ถ้าทำเรื่องยกเลิกแล้วคือยกเลิกเลยนะ จะกลับมาขอคบไม่ได้แล้วนะ อยากทำคือสมัครใหม่อย่างเดียว แต่ก็ยังพ่วงกับประกันชีวิตของเราอยู่เหมือนเดิม 
  4. ยิ่งแข็ง (แรง) มากเท่าไหร่ เบี้ยประกันยิ่งถูกเท่านั้น 
  5. เบี้ยประกันสุขภาพจะแปรผันตรงกับอายุ ยิ่งอายุมากเบี้ยยิ่งสูง และหญิง ชาย เบี้ยประกันไม่เท่ากัน 
  6. ศึกษาเงื่อนไขของกรมธรรม์ให้ดีๆ อ่านไม่ครบอาจอดเคลมนะจ๊ะ เพราะกรมธรรม์บางตัวก็มีเงื่อนงำซ่อนอยู่ เช่น ประกันโรคร้ายแรงบางตัวก็คุ้มครองแค่มะเร็งระยะลุกลาม หรือคุ้มครองแค่โรคร้ายแรงบางโรคเท่านั้น อ่านดูให้ดีๆ 
เราเชื่อว่าการทำประกันสุขภาพก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ดีสำหรับช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับโรคภัยไข้เจ็บที่อาจจะเกิดขึ้นกับเราในอนาคตได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคปัจจุบันนี้ หืม….ค่ายา ค่าหมอ นี่แพ๊ง แพง จ่ายกี่ชาติไม่รู้จะหมด แถมสภาพแวดล้อมยังเอื้อให้เราป่วยเป็นโรคนู้น โรคนี้ได้ง่าย เงินก็ยิ่งไม่ค่อยจะมีอยู่ จ่ายค่ารักษาทีนึงกินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปไปหลายเดือน ดังนั้นการเลือกประกันสุขภาพให้ตอบโจทย์ความต้องการของตัวเรามากที่สุดจึงเป็นเรื่องสำคัญ จะได้ช่วย save เงิน และ save ชีวิตของเรา 
Infographic – 6 ข้อควรรู้? ควรระวัง!ก่อนทำประกันสุขภาพ
ขอบคุณแหล่งข้อมูล 

สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย

แชร์

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง

ประกันอุบัติเหตุ vs ประกันสุขภาพ เลือกแบบไหนดีให้เหมาะกับตัวเรา

ในยุคที่ค่ารักษาพยาบาลพุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง การมีประกันสักฉบับไว้ช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายจากการเจ็บป่วยหรืออุบัติเหตุถือเป็นเรื่องสำคัญ แต่หลายคนยังสับสนว่า ควรเลือก “ประกันอุบัติเหตุ (PA)” หรือ “ประกันสุขภาพ” ดี? กกเพราะทั้งสองแบบต่างก็เกี่ยวข้องกับค่ารักษาพยาบาลเหมือนกัน ซึ่งนอกจากชื่อที่ต่างกันอย่างเห็นได้ชัดเจนแล้ว ประกันทั้งสองประเภทนี้ก็ยังมีความแตกต่างกันในเรื่องของความคุ้มครองและวัตถุประสงค์ในการทำประกัน

ไม่อยากเสียใจ อ่านสิ่งนี้ก่อนเลือกทำประกันชีวิตผู้สูงอายุให้พ่อ-แม่

ปัจจุบันเทรนด์ทั่วโลกกำลังก้าวเข้าสู่ สังคมผู้สูงวัย และประเทศไทยเองก็ไม่ต่างกัน เมื่อสมาชิกในครอบครัว โดยเฉพาะพ่อแม่ เริ่มมีอายุเพิ่มมากขึ้น ความเสี่ยงด้านสุขภาพก็ตามมา การวางแผนดูแลท่านจึงไม่ควรมองข้าม โดยเฉพาะในเรื่องของ หากคุณกำลังมองหาวิธีวางแผนดูแลพ่อแม่ในยามแก่เฒ่า การทำ ประกันชีวิตผู้สูงอายุ ถือเป็นอีกทางเลือกที่ช่วยเพิ่มความอุ่นใจทั้งกับผู้ทำประกันและครอบครัวของคุณ อย่างไรก็ตาม ต้องพิจารณาเงื่อนไขให้ละเอียด เลือกแผนที่เหมาะกับงบประมาณและเป้าหมายของคุณให้ดี แล้วคุณจะได้รับ “ความคุ้มครอง” พร้อม “ความสบายใจ” ไปพร้อมกัน ที่สามารถช่วยรองรับค่าใช้จ่ายในอนาคต และเป็นหลักประกันที่มั่นคงให้กับครอบครัว