ทำงามาเหน็ดเหนื่อย คนเราก็ต้องพักผ่อนกันบ้าง และหากคุณมีจุดหมายปลายทางของการท่องเที่ยวเป็นต่างประเทศล่ะก็ อย่าลืมทำประกันการเดินทางเด็ดขาด เพราะประกันการเดินทางเป็นองค์ประกอบสำคัญที่ช่วยให้ทริปท่องเที่ยวต่างประเทศของคุณไม่สะดุดจากเหตุการณ์ไม่คาดฝัน อาทิเช่น การเจ็บป่วยจนต้องเข้าโรงพยาบาล อย่างที่ทราบกันดีว่าค่ารักษาพยาบาลในต่างประเทศนั้นสูงมาก เพียงแค่ก้างปลาติดคอก็อาจทำให้คุณต้องสูญเงินนับหลายหมื่นได้ เพราะฉะนั้นการทำประกันการเดินทางก็เปรียบเสมือนเป็นเครื่องมือช่วยป้องกันความเสี่ยงทางการเงินในยามที่คุณเดินทางไปต่างประเทศ
เมื่อพอเก็ตแล้วว่าทำไมถึงต้องทำประกันการเดินทางเมื่อเดินทางไปต่างประเทศ ก็ถึงขั้นที่ลงมือจิ้มซื้อประกันการเดินทางตัวจริงแล้ว แต่จะเลือกประกันการเดินทางตัวไหนดีล่ะในเมื่อมีให้เลือกตั้งมากมาย หลายแบบ และหลายเจ้า ในบทความนี้เราช่วยให้คุณได้เจอกับประกันการเดินทางที่ตอบโจทย์ และคุ้มค่าผ่าน 5 เคล็ดไม่ลับเหล่านี้
1.ศึกษาข้อยกเว้น และเงื่อนไขการคุ้มครองของประกันการเดินทาง
คนส่วนใหญ่มักเข้าใจผิดคิดว่าประกันการเดินทางนั้นคุ้มครองทุกกรณีที่เกิดขึ้น แต่ในความเป็นจริงแล้วประกันการเดินทางก็มีข้อยกเว้นและเงื่อนไขที่ไม่คุ้มครองเช่นกัน ดังนั้นควรศึกษาข้อมูลประกันการเดินทางของแต่ละแผน แต่ละเจ้าให้ดี หลักๆ อาจพิจารณาจากความคุ้มหลักก่อน เช่น ค่ารักษาพยาบาล การเคลื่อนย้ายผู้ป่วยฉุกเฉิน การยกเลิกเที่ยวบิน ค่าชดเชยกรณีสัมภาระสูญหาย ที่สำคัญเลยคือวงเงินความคุ้มครองนั้นเพียงพอสำหรับความต้องการหรือไม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากพกพาสิ่งของมีค่าติดตัวไปด้วย และอีกประเด็นหนึ่งที่ห้ามลืมเลยคือศึกษาข้อยกเว้นหรือข้อจำกัดให้ดีๆ เช่น เงื่อนไขความคุ้มครองเกี่ยวกับกิจกรรมที่มีความเสี่ยงสูง เป็นต้น
2.เบี้ยประกันสมเหตุสม สมผล หรือไม่
เนื่องจากในตลาดมีแบบประกันการเดินทางมากมาย ราคาตั้งแต่หลักร้อยต้นๆ ไปจนถึงถึงหลักพัน ดังนั้นอันดับแรกคือต้องพิจารณาดูว่าคุณต้องการวงเงินความคุ้มครองประมาณเท่าไหร่ หลักจากนั้นให้เลือกแบบประกันการเดินที่ตอบโจทย์ความต้องการ ลองเปรียบเทียบดูว่าด้วยวงเงินความคุ้มครองประมาณนี้แบบประกันแผนไหนเบี้ยประกันคุ้มค่าที่สุด อาจนำมาเทียบบัญญัติไตรยางค์ดูก็ได้ว่าเบี้ยประกัน 1 บาท เราจะได้วงเงินความคุ้มในส่วนรักษาพยาบาลเท่าไหร่ หากคุณเน้นในด้านไหนก็ลองนำบัญญัติไตรยางค์ไปเทียบดูเพื่อช่วยให้คุณเห็นภาพความคุ้มค่าได้ชัดเจนขึ้น
ตัวอย่าง
ถ้าคุณเน้นในเรื่องของค่ารักษาพยาบาลให้เลือกแผน B จะคุ้มค่ากว่า หากเน้นในเรื่องความคุ้มครองเที่ยวบินล่าช้าให้เลือกซื้อแผน A
3.สิทธิประโยชน์เพิ่มเติมของแผนประกันการเดินทาง
นอกเหนือจากความคุ้มครองหลักที่จะได้รับจากประกันการเดินทางแล้ว ในบางแผนประกันคุณยังมีโอกาสได้สิทธิประโยชน์พิเศษอีกเช่น บริการช่วยเหลือ 24 ชั่วโมง บริการผู้ช่วยจองบริการต่างๆ ในต่างประเทศ หรือการคุ้มครองกรณีหนังสือเดินทางหาย เป็นต้น ลองพิจารณาสิทธิประโยชน์เพิ่มเติมเล่านี้ดูว่าตอบโจทย์กับความต้องการของคุณหรือไม่ หากใช่ก็ใส่ไว้ใน Wishlist ได้เลย
4.ความน่าเชื่อถือของบริษัทประกัน
ปัจจัยที่สามารถช่วยบอกได้ว่าบริษัทประกันนั้นๆ มีความน่าเชื่อถือเพียงใดประกอบไปด้วยหลายด้านมาก ไม่ว่าจะเป็น อัตราส่วนความเพียงพอของกองทุน(CAR) ที่ คปภ.เป็นผู้เข้ามากับกำคอยดูแลอย่างใกล้ชิด ซึ่งก็สามารถช่วยเบาใจให้กับผู้บริโภคไปได้อีก 1 เปราะ หรือจะเป็นปัจจัยเรื่องมาตรฐานในการทำงานของบริษัทประกัน ความเร็วในการเคลมประกัน ซึ่งสามารถหาคำตอบได้จากรีวิวลูกค้าคนก่อนๆ หรือจะเป็นการปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญด้านประกันก็เป็นอีกหนึ่งเสียงช่วยการันตีให้คุณสามารถตัดสินใจเลือกซื้อประกันการเดินทางได้อย่างมั่นใจมาขึ้น
5.ทำความเข้าใจแบบประกันการเดินทางให้ลึกซึ้ง
ก่อนที่จะตัดสินใจว่าซื้อประกันการเดินทางแผนไหนดี อย่าลืมนำแบบประกันมากางดูให้ละเอียด ศึกษาข้อมูลของแบบประกันนั้นให้ถี่ถ้วนตั้งแต่รายละเอียดความคุ้มครอง ระยะเวลาความคุ้มครอง เงื่อนไขความคุ้มครอง ขั้นตอนการเคลม ตลอดจนเอกสารจำเป็นต่างๆ เพื่อให้คุณไม่ต้องมานั่งเจอเรื่องเซอร์ไพรส์ในภายหลัง
ประกันการเดินทางนับว่าเป็นอีกเครื่องมือที่ดีมากๆ สำหรับคนที่กำลังวางแผนเดินทางไปต่างประเทศ เพราะช่วยให้เบาใจเมื่อเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้นกับทริปของคุณ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องค่ารักษาในยามเจ็บป่วย หรือแม้กระทั่งกรณีที่เที่ยวบินดีเลย์คุณก็สามารถวางใจให้ประกันการเดินทางเป็นผู้ช่วยแบ่งเบาภาระได้ เห็นข้อดีมากมายขนาดนี้แล้วตอนเลือกซื้อประกันการเดินทางก็อย่าลืมนำเคล็ดไม่ลับทั้ง 5 ข้อนี้ไปปรับใช้เป็นแนวทางในการเลือกซื้อประกันการเดินทางของคุณได้นะ เพราะประกันที่ดีไม่ใช่ประกันที่แพงแต่เป็นประกันที่ตอบโจทย์กับคุณ
